วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การระบาดของไวรัสอีโบล่า

การระบาดของไวรัสอีโบล่า


 


ช่วงนี้ไวรัสที่น่ากลัวและระบาดอยู่ตอนนีคือ ไวรัสอีโบล่า ที่บอกว่าไวรัสตัวนี้น่ากลัวเพราะว่ายังไม่มียาชนิดไหน ที่รักษาไวรัสอีโบล่าได้ หากเป็นโรคนี้แล้วเป็นแล้วโอกาสตายสูงมาก การระบาดของ อีโบล่า หรือไวรัสอีโบล่า ซึ่งอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก ที่ยังไม่มีทีท่าจะควบคุมโรคนี้ได้ นับเป็นการระบาดของอีโบล่าที่ใหญ่ที่สุด นับถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2557 นั้นมีผู้ป่วยในการระบาดครั้งนี้ติดเชื้ออีโบล่าไปแล้ว 779 ราย และเสียชีวิต 481 ราย ใน 3 ประเทศ คือ กินี สาธารณรัฐลิเบอเรีย และสาธารณรัฐเซียร์ราลิโอน โดยการระบาดของไวรัสอีโบล่าเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นมา

     ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รพ.จุฬาลงกรณ์

     อีโบล่าเกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มฟิโลไวรัส พบครั้งแรกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ทวีปแอฟริกาใกล้ "แม่น้ำอีโบล่า" จึงตั้งชื่อโรคดังกล่าวตั้งแต่ปี 2519 และเกิดมีการระบาดมากกว่า 20 ครั้ง ในแอฟริกา สันนิษฐานว่าอาจจะมีค้างคาวเป็นตัวนํา และยังพบโรคจากไวรัสอีโบล่าดในสัตว์ตระกูลลิง (nonhuman primates) ในแอฟริกา แต่ติดต่อมาสู่คนด้วยวิธีใดนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้โดยการสัมผัสเชื้อโดยตรง จากสารคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือสัมผัสเชื้ออีโบล่ามาจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเพณี วัฒนธรรม ของชาวแอฟริกานั้น พิธีกรรมศพ โดยการสัมผัส ล้างศพ เท่ากับแพร่กระจายโรคทําให้เกิดการติดต่อและระบาดของไวรัสอีโบล่าได้ง่ายๆ




     อีโบล่า มีอาการคือคล้ายไข้เลือดออก มีการรั่วไหลของเลือดและน้ำเหลืองออกจากหลอดเลือดเหมือนไข้เลือดออก โดยมีระยะเวลาฟักตัวประมาณ 2-21 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย การอักเสบของตับ ไตการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เลือดออกภายใน เสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 60 ปัจจุบันไม่มียาและวัคซีนจําเพาะและป้องกัน การป้องกันที่ดีที่สุดคือ ดูแลสุขอนามัย ความสะอาด สุขลักษณะ ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วย และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ได้กล่าวไปแล้ว

 

 









ไวรัสอีโบล่า
ไวรัสอีโบล่า

 

 

     แม้ประเทศไทยจะยังไม่มีประกาศในการห้ามเดินทางเข้าออกในทวีปแอฟริกา แต่หากมีความจําเป็นต้องเดินทางเข้าออกในพื้นที่การระบาด ผู้เดินทางควรสังเกตและเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ควรรักษาสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากเชื้อไวรัสอีโบล่านี้สามารถติดต่อได้ทางสารคัดหลั่ง เลือด และการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมต่างๆ ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และหากมีอาการเจ็บป่วยหลังจากเดินทางเข้าออกในพื้นที่ระบาด ต้องรีบพบแพทย์และแจ้งให้ทราบ เพื่อป้องกันการระบาดสู่คนใกล้ชิด

 


แต่ในข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดีคือ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเตรียมแถลงข่าวผลิตแอนติบอดีรักษาโรคไข้เลือดออกอีโบลาสำเร็จแล้ว ชี้เป็นแห่งแรกของโลก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ศึกษาวิจัยและผลิตแอนติบอดีรักษาโรคไข้เลือดออกอีโบลาได้เป็นผล สำเร็จ และเป็นแห่งแรกของโลก โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 2 ต.ค. นี้ ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลามีความรุนแรงและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูง ขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียาเฉพาะในการรักษา ส่งผลให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญ จึงมีการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในการรักษาโรคดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถค้นพบการผลิตแอนติบอดีรักษาโรคโรคไข้เลือดออกอีโบลาสำเร็จ

ด้าน รศ.นพ.ภัทรชัย กีรติสิน หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงกรณีศิริราชเตรียมแถลงข่าว “ครั้งแรกของไทย ศิริราชผลิตแอนติบอดีรักษาโรคไข้เลือดออกอีโบลาสำเร็จ” ในวันที่ 2 ต.ค.นี้ว่า ขณะนี้ศิริราชยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการแถลงข่าวใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างขอให้รอการแถลงข่าวในวันที่ 2 ต.ค. นี้เท่านั้น